ในขณะที่ยุคสมัยนี้ถูกขับเคลื่อนไปด้วยโลกของไซเบอร์ คนเราก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ มันน่าตกใจทุกครั้งที่เห็นเพื่อนของเราในชีวิตจริงกับโซเชียลแตกต่างกันสิ้นเชิง บางคนชีวิตจริงดูเรียบร้อยไม่กล้าแสดงออก แต่ในโซเชียลกลับกลายเป็นคนละคน กล้าพูด กล้าคิด กล้าทำ เพราะทุกอย่างอยู่แค่ปลายนิ้วมือเท่านั้น
นับวันโซเชียลมีความหลากหลายมากขึ้นและมีทางเลือกให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น หากมองให้ลึกแล้วจุดประสงค์หลักของโซเชียล คือการให้ผู้คนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้สะดวกสบาย การสร้างสังคมใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถติดต่อ สื่อสารกับคนที่เราไม่รู้จักได้ง่ายยิ่งขึ้น เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่วางอยู่บนพื้นที่ส่วนรวม ให้เราได้แสดงความคิดเห็นหรือ ชีวิตประจำวันของเรา ในช่วงแรก ผู้คนก็ยังใช้ตรงตามวัตถุประสงค์อยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป โซเชียลกลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนแสดงความเห็นกันเกินขีดจำกัด จนหลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์ Cyberbullying การใช้ถ้อยคำด่าทอ เสียดสี ใส่ร้ายผู้อื่น หรือการแสดงความเห็นแบบสุดโต่ง ส่งผลในแง่ลบต่อผู้อื่น จนรุนแรงถึงขั้นมีคนทำร้ายตัวเองจากเหตุการณ์นี้ จะเห็นว่าสิ่งเล็ก ๆ ที่เราพิมพ์ลงไปแบบไม่ยั้งคิด พอรวมกันมาก ๆ กลายเป็นสิ่งที่คอยทำร้ายผู้อื่น
แต่ว่าถ้าพูดถึงประโยชน์ของโซเชียลก็มีอยู่ไม่น้อย นอกจากจะเป็นพื้นที่ให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันอย่างสะดวกสบายแล้ว ปัจจุบันยังเป็นพื้นที่ในการประกอบอาชีพ การโปรโมทสินค้า การสร้างเทรนด์ การนำเสนอแบรนด์ หรือการค้นคว้าหาข้อมูลต่าง ๆ ก็สะดวกรวดเร็วขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของนักเรียนและนักศึกษา ข่าวสารต่าง ๆ ก็รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นข้อดี ถ้าหากข้อมูลของข่าวนั้นเป็นความจริงทั้งหมด เกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดบ่อยครั้งเพราะการแพร่กระจายข่าวที่ไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้องให้ดีซะก่อน และผู้คนอยากจะแชร์เรื่องราวให้เร็วที่สุด จนบางทีไปก้าวล้ำความเป็นส่วนตัวและสร้างความเสียหายให้กับบุคคลอื่น และที่สำคัญการพิมพ์หรือโพสข้อความใดในโลกโซเชียลโดยอารมณ์ ขาดความยับยั้งชั่งใจ สิ่งเหล่านี้มันจะอยู่กับเราไปอีกนาน และอาจจะส่งผลต่อตัวเราเองในอนาคต
โลกโซเชียลก็เหมือนดาบสองคม หากรู้จักใช้ด้านที่ดี ใช้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาล เราอาจจะได้เพื่อนใหม่ ความรู้ใหม่ หรืออาชีพใหม่ ๆ จากโลกโซเชียลนี้ และก็เช่นกัน หากเรามือไวใจเร็ว คล้อยไปตามสังคม เป็นคนที่อยากแสดงความเห็นตลอดเวลา และพยายามจะเป็นคนดีด้วยการด่าคนอื่น ถือว่าเป็นการใช้ที่ผิดวัตถุประสงค์ของโซเชียลแล้ว สังคมจะน่าอยู่ไม่ใช่เพียงแค่สร้างสังคมในชีวิตจริงเท่านั้น โลกโซเชียลก็ถือได้ว่าเป็นสังคมที่ 2 ของผู้คนในปัจจุบัน หากเราอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง หรือพื้นที่เหมาะสม ไม่กล่าวร้ายใคร โซเชียลมีเดียก็ถือว่าเป็น “มิตรแท้” ของเราได้ แต่ถ้าเมื่อใดก็ตาม ที่เราเริ่มว่าร้ายคนอื่น สิ่งเหล่านี้จะตามมาเป็นลูกโซ่ แล้วจะเกิดการว่ากันไปว่ากันมาไม่มีที่สิ้นสุด แล้ววันนั้น มิตรแท้อาจจะกลายเป็นมิตรเทียมของเราไปก็ได้