Category Archives: แฟชั่น

FREITAG คือกระเป๋าที่ทำจากโลกทั้งใบ เพื่อคุณคนเดียว

FREITAG คือแบรนด์กระเป๋าที่ออกตัวอย่างชัดเจนว่ามีแนวคิดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีสไตล์เป็นของตัวเองแบบที่ใครยากจะเลียนแบบ เพราะกระเป๋าทุก ๆ ชิ้นของ FREITAG ล้วนทำมาจากผ้าใบรถบรรทุกและขยะชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่บางคนอาจไม่เห็นค่า แต่ท้ายที่สุดขยะเหล่านั้นก็ถูกชุบชีวิตให้กลับมามีมูลค่ามหาศาล กลายเป็นกระเป๋าใบโปรดของใครสักคน หรืออาจเป็นของขวัญวันเกิดที่ดูดีคู่ควรกับวันพิเศษ

กระเป๋าที่เน้นเรื่องการใช้งาน

ถึงแม้จะเป็นแบรนด์กระเป๋าสไตล์สตรีทสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ แต่ FREITAG เป็นภาษาเยอรมัน ซึ่งถ้าให้อ่านออกเสียงในตอนแรกเลยคงมีงงกันไปบ้าง แต่แท้จริงแล้วคำนี้อ่านว่า ฟราย-ถาก (เน้น ฟร และพยางค์หลังออกเสียงต่ำ) ซึ่งมีความหมายว่า Friday หรือก็คือวันศุกร์นั่นเอง ซึ่งมีที่มาจากนามสกุลของผู้ก่อตั้งอย่าง มาคัส และ ดาเนียล แถมพวกเขายังรู้สึกดีกับวันนี้มากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับวันอื่น ๆ ในสัปดาห์ เพราะมันเป็นวันสุดท้ายที่จะต้องทำงาน สิ่งสำคัญคือ แบรนด์ FREITAG ไม่ใช่แบรนด์ใหม่แกะกล่องที่เพิ่งทำหลังจากมีกระแสรักษ์โลกเกิดขึ้นมา แต่แนวคิดนำสมัยนี้ก่อให้เกิดแบรนด์กระเป๋าสตรีทนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993 แล้ว  

FREITAG ถือว่าเป็นแบรนด์แบบ Eco friendly ขนานแท้ เพราะแม้แต่กรรมวิธีในการผลิตก็ยอมที่จะใช้ส่วนที่ต้นทุนสูงกว่าเพื่อลดมลภาวะต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ใช้แรงงานในยุโรปเพื่อลดมลพิษที่จะเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง ขบวนการรีไซเคิลที่ใช้เงินมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น FREITAG เองก็ไม่ใช่กระเป๋าสไตล์แฟชั่นที่จะเปลี่ยนทุก ๆ คอลเลคชันที่ออกใหม่ พวกเขามองตัวเองเป็นสิ่งล้ำค่าที่ยืนหยัดและเคียงคู่กับผู้ใช้เหมือนทำกระเป๋าให้เพื่อน ดังนั้นเรื่องของความคงทนและขั้นตอนการทำต่าง ๆ กว่าจะได้มาซึ่งกระเป๋าหนึ่งใบนั้น เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาอย่างแน่นอน ถึงแม้เมื่อเทียบกับค่าครองชีพในประเทศไทยแล้วอาจจะดูแพงไปสักหน่อย แต่ถ้าคุณกำลังมองหาความทนทานกร้านแดดฝนอย่างที่กระเป๋าใบหนึ่งจะให้คุณได้อย่างสุดความสามารถของมัน FREITAG ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ

อีกทั้งปัจจุบัน FREITAG ก็มีร้านอยู่ที่สยามสแควร์ซอยเจ็ด ซึ่งถือว่าเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียอีกด้วย ใครมีโอกาสแล้วอยากลองไปดูก็สามารถทำได้เลย ที่สำคัญยังมีอีกสาขาที่เชียงใหม่อีกต่างหาก ถือว่าเข้าถึงง่าย เอื้อต่อการเป็น ชาว F สุด ๆ

ผ้าใบจากรถบรรทุก       

ขยะที่เกิดจากคนทั้งโลกถูกหยิบยกมากลายเป็นวัสดุชิ้นสำคัญของ FREITAG ที่เนรมิตผ้าใบรถบรรทุกและยางจักรยานให้กลายเป็นกระเป๋าใบสำคัญ เหมาะและควรที่จะมีไว้ในครอบครองอย่างไร้ข้อกังขา เพราะ FREITAG ใส่ใจทุกรายละเอียดและขั้นตอนการแปรรูปขยะต่าง ๆ ให้กลายเป็นสิ่งสุดพิเศษ จึงไม่เป็นเรื่องเกินจริงเลยที่ว่าแบรนด์นี้สร้างขึ้นจากโลกทั้งใบเพื่อคุณเพียงคนเดียว เพราะเป็นความจริงเรื่องที่กระเป๋าแต่ละใบมีเพียงใบเดียวบนโลกเท่านั้น

Next in Fashion รายการแฟชั่นที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องเสื้อผ้า

ใครเป็นสาวกเน็ตฟลิกซ์ก็ขอให้ยกมือขึ้น ยิ่งใครที่สาละวนอยู่หน้าเลือกหนัง ไม่รู้ว่าจะดูอะไรดี ก็ขอให้ชูมือสุดแขนเลยทีเดียว เพราะวันนี้เรามีรายการเรียลลิตี้รูปแบบแปลกใหม่มานำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยู่ในกระแสแฟชั่นตลอดเวลา หรือกระทั่งคนที่หยิบอะไรได้ก็ใส่ สามารถสนุกไปกับมันได้อย่างไม่ต้องปวดหัวอะไรนัก เพราะ Next in Fashion ได้น้อยกระดาษร่างภาพและผืนผ้ามาให้เราดูในรูปแบบของรายการการแข่งขันที่ดีไซเนอร์ชื่อดังทั่วโลกให้การยอมรับ

รายการดีที่ควรดู  

Next in Fashion คือรายการที่จะเฟ้นหาสุดยอดนักออกแบบเสื้อผ้าที่มีความสามารถเป็นเลิศในทุกด้าน ทุกสไตล์ของแฟชั่น ซึ่งโจทย์ในแต่ละสัปดาห์ที่ให้มาอยู่ในกรอบของเสื้อผ้าที่กำหนดให้และเวลาที่จำกัดเพียงสองวันเท่านั้น เหล่าดีไซเนอร์มือฉกาจต้องลงแรงออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้าให้ทันตามเวลาที่กำหนด รวมถึงการบรีฟและพูดคุยกับเหล่านางแบบนายแบบทั้งหลายให้สื่อสารคอนเซปของเสื้อผ้าของพวกเขาให้ออกมาชัดเจนและตรงใจกรรมการที่สุด

กติกาคือให้เหล่าดีไซเนอร์จับคู่กันเป็นทีม ทีมละสองคน ให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างสันติและผลงานที่ออกมาเองก็ต้องไร้ที่ติ จุดนี้แหละที่รายการพาให้เราทำความรู้จักไปกับเหล่าผู้เข้าแข่งขันทีละน้อย และเผชิญอุปสรรคไปพร้อม ๆ กับพวกเขา เพื่อดูวิธีแก้ปัญหาของแต่ละทีม ทั้งความไม่ลงรอยกันของเพื่อน ตัดเย็บเสื้อผ้าอย่างเร่งรีบเพราะกำลังจะไม่ทันกำหนดเวลาเดินแบบ หรือกระทั่งอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดเลือดตกยางออกจนนึกว่ากำลังดูซีรีส์ฝรั่งสอดแทรกความรู้ด้านแฟชั่นสักเรื่องหนึ่ง

อันที่จริงรายการนี้ค่อนข้างเหมาะกับคนที่สนใจแฟชั่นและอาชีพดีไซเนอร์อยู่พอตัว ต้องการรู้ระบบการทำงานและคลั่งไคล้ศิลปินผู้ออกแบบชุดบางคนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองแบบเฉพาะทาง หรือคนที่ไม่ได้สนใจแฟชั่นมาก ลำพังในส่วนของการแข่งขันเฉือนคมและดราม่าเล็ก ๆ ที่สอดแทรกไว้ในแต่ละตอนให้พอกลมกล่อมก็มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้ดูจนจบและกดเปิดตอนต่อไปได้ แม้ในปัจจุบันจะมีเพียงแค่หนึ่งซีซั่นเท่านั้น แต่ก็สร้างความเพลิดเพลินให้ผู้ชมไม่น้อย

แฟชั่นที่อยู่ในไลฟ์สไตล์ของเรา

ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็สามารถสนุกไปกับ Next in Fashion ได้ง่าย ๆ นั่นเป็นเพราะระบบการแข่งขันที่ถูกใส่เข้ามานับได้ว่าดึงอารมณ์ร่วมของคนดูได้เป็นอย่างดี อีกทั้งคาเรคเตอร์ของพิธีกรและผู้เข้าร่วมการแข่งขันต่างก็มีเอกลักษณ์อย่างน่าสนใจจนเราเองเผลอผูกพันและเอาใจช่วยไปกับพวกเขาเหล่านั้นอย่างไม่รู้ตัว อีกทั้งยังได้เกร็ดความรู้เรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นและการแต่งตัวจากเซเลบบริตี้ขื่อดังทางฝั่งโลกของแฟชั่นอีกด้วย เรียกได้ว่างานนี้มีแต่กำไรเน้น ๆ ถ้าใครยังไม่แน่ใจว่าอยากจะดูอะไรดี ขอให้ Next in Fashion ได้กลายเป็นคำตอบที่ถูกเลือกในสักวัน

เอี๊ยมตัวเก่า ปรับใส่กับเสื้อตัวใหม่ก็กลายเป็นลุคใหม่สุดโดนใจ

ใครว่าเอี๊ยมใส่แล้วเชย ไม่จริง ทุกคนรู้ เอี๊ยมเป็นชุดที่สามารถใส่ได้ตลอด ทุกลุค ไม่ว่าจะเป็นลุคแคชชวลสบาย ๆ ไว้ออกไปเดินเล่น หรือจะแต่งให้น่ารักดูสุภาพไปออกงานที่ไม่เป็นทางการนักก็สามารถทำได้ นอกจากจะสามารถพรางหุ่นได้แล้ว เอี๊ยมยังเป็นชุดที่หาได้ง่าย ได้รับความนิยมตลอด ไม่เคยตกเทรนด์ ที่สำคัญ ยังมีเอี๊ยมหลากหลายสไตล์ที่เหมาะกับสาว ๆ ทุกคนอีกด้วย

เสื้อ 5 ตัวนี้เก็บไว้เลย ได้ใส่แน่

1. เสื้อเอวลอย             

ใครที่กำลังเบื่อ ๆ ลุคแบ๊ว ๆ ของการใส่เอี๊ยมที่มักจะติดตาคนอื่น ๆ บอกได้เลยว่าการมิกซ์แอนด์แมทช์นี้ต้องประสบผลสำเร็จแน่นอน เพราะการใส่เอี๊ยมกับเสื้อเอวลอย นอกจากจะดูแปลกตาน่าสนใจแล้ว ยังทำให้เราดูสดใสซาบซ่าขึ้นอีกด้วยนะ ยิ่งบวกพลังความมั่นใจสดใสของคนใส่แล้ว ใครมองก็ต้องมีเหลียวหลังหันตามกันบ้างล่ะ

2. เสื้อเชิ้ต   

หรือถ้าไม่ถนัดแนวเซ็กซี่มากนัก เสื้อเชิ้ตเองก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะดูสุภาพแล้วยังเท่มาก ๆ อีกต่างหาก มองเผิน ๆ นึกว่าหลุดมาจากฟาร์มเป็นคาวเกิร์ลแสนซน หรือถ้าใส่เป็นเชิ้ตแขนยาวแล้วอากาศร้อนหน่อยก็พับแขนเสื้อขึ้นก็ได้ รับรองว่าดูดีใส่ตอนไหนก็อินแน่นอน

3. เสื้อแขนยาว         

มาถึงอีกมิติหนึ่งของการใส่เชิ้ตที่คุณจะดูแก่นเซี้ยวยิ่งกว่าเดิมเมื่อใส่เอี๊ยมกับเสื้อแขนยาว เป็นการผสมผสานความน่ารักและเท่แบบลงตัว หยอดความซนลงไปหน่อย ๆ เป็นพอใช้ได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่ได้รับความนิยมมากทีเดียวกับลุคนี้

4. เสื้อเปิดไหล่     

ถ้ารู้สึกว่าอยากเซ็กซี่แต่ใส่เสื้อเอวลอยแล้วไม่มั่นใจ เสื้อเปิดไหล่ก็เป็นอีกทางเลือกที่สาว ๆ ควรเก็บไว้พิจารณา เพราะนอกจากจะดูเซ็กซี่แล้ว ยังผสมความน่ารักขี้เล่นหน่อย ๆ ไปกับลุคนี้ด้วย ใส่ชุดนี้แล้วยิ้ม ๆ เข้าไว้ รับรองสวยเจิด เกิดทุกคนแน่นอน

5. เสื้อคลุม        

ถ้าต้องการชุดที่ดูเป็นทางการหน่อยก็เหมาะแล้วสำหรับการแมทช์ชุดเอี๊ยม กับเสื้อยืด แล้วจึงสวมทับด้วยเสื้อคลุมอีกที ซึ่งก็แล้วแต่คน จะเป็นคาร์ดิแกนก็ได้ แจ็คเก็ตก็ดี หรือจะเป็นเบลเซอร์ที่ทับด้วยเอี๊ยมกับเสื้อเชิ้ตก็ดูเก๋ไม่ซ้ำใครไปอีกแบบ เรียกได้ว่าสุดแล้วแต่คนใส่จะหามามิกซ์กันได้ เพราะเอี๊ยมใส่กับอะไรก็ดูสวยจริง ๆ

ความสวยที่มาจากความมั่นใจภายใน

ไม่ว่าจะใส่อะไร ข้อสำคัญของการแต่งตัวคือความมั่นใจ เพราะทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง และยิ่งถ้าบวกเพิ่มความมั่นใจเข้าไปอีก ก็จะกลายเป็นเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ลอกเลียนแบบกันไม่ได้ ดังนั้นไม่ว่าจะใส่เอี๊ยม เดรส กางเกงยีนส์ กางเกงขาสามส่วน หรือกระโปรงชนิดใดก็ตาม ถ้าหากผู้ใส่มีความมั่นใจในตัวเอง ความสวยที่อยู่ในตัวก็จะเปล่งประกายมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

ความเซอร์กับการหายไปของร้านเสื้อผ้ามือสอง

เมื่อนานมาแล้ว หากใครจำได้ครั้งหนึ่งเมืองไทยเราเคยมีแฟชั่นฮิตเฉพาะทางที่เป็นแบบฉบับของเราเองอยู่เหมือนกัน เรามีสไตล์แฟชั่นที่กำหนดขึ้นมาเองซึ่งวัยรุ่นประเทศอื่น ๆ ไม่สามารถทำตามได้ เป็นแฟชั่นแบบไทยสไตล์ที่ไม่ตามใครแม้ว่ากระแสแฟชั่นของโลกจะเทไปทางการแต่งตัวของบอยแบนด์หรือเกิร์ลกรุ๊ปยุค 90 ก็ตาม แต่ในเมืองไทยก็ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าสไตล์ “เซอร์” แฟชั่นอันไร้ขอบเขตที่ครั้งหนึ่งเคยฮิตระเบิดระเบ้อ

ความเซอร์ถ้าจะแปลเป็นภาษาสมัยนี้ก็คงประมาณว่าโลกส่วนตัวสูงหรือคนอารมณ์ติสท์นั่นเอง ทว่าก็ไม่มีใครทราบที่มาว่าการสวมใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ปอน ๆ ดูขัดสนประกอบกับไว้ผมยาวกระเซอะกระเซิง สวมสร้อยตามคอตามแขนพะรุงพะรัง เหตุไฉนถึงถูกเรียกขานว่าเซอร์? เซอร์ดูจะเป็นคำบัญญัติขึ้นมาเองในหมู่วัยรุ่นยุคนั้นซึ่งไม่ได้มีรากศัพท์มาจากภาษาใดเป็นตัวตั้ง เหมือนกับคำฮิตอีกคำที่มาจากยุคเดียวกันอย่าง “จ๊าบ” ที่คิดค้นขึ้นมาโดยตลกคาเฟ่นั่นเอง เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าคำเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องค้นหาที่มา ไม่จำกัดความหมาย รู้แต่ว่าพอได้เอื้อนเอ่ยออกไปแล้วมันได้อารมณ์สุด ๆ ก็พอ กลับมาที่แฟชั่นเซอร์กันต่อ สไตล์แฟชั่นแบบเซอร์ ๆ ที่ว่านี้ทำให้ยุคหนึ่งเสื้อผ้าที่ดูเก๋า ๆ อย่างยีนส์สีสนิม ยีนส์สีซีด รองเท้าผ้าใบเก่า ๆ หรือเสื้อแถมเครื่องดื่มชูกำลังเป็นอะไรที่เท่สุด ๆ วัยรุ่นทั่วทุกหัวระแหงต่างถวิลอยากเป็นหนุ่มมาดเซอร์สาวมาดเซอร์กันแทบทั้งสิ้น นั่นจึงทำให้ร้านเสื้อผ้ามือสองผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดและขายดีเป็นเทน้ำเทท่ายิ่งกว่าเสื้อผ้าใหม่แบรนด์ดังจากห้างเสียอีก

ความคลั่งไคล้ในความเซอร์ไม่ได้หยุดอยู่แค่แฟชั่นเท่านั้น แม้แต่การเล่าเรียนศึกษาก็ด้วยหากใครอยากคีพลุคเซอร์ให้สมจริงแน่นอนว่าไม่เรียนศิลป์ก็ต้องเรียนสถาปัตย์ถึงจะกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะมาเรียนบัญชี แพทย์หรือนิติฯก็คงกระไรอยู่เพราะสาขาเหล่านี้คือวิชาชีพที่ต้องการความน่าเชื่อถือครั้นจะไว้ผมยาวทำตัวเซอร์ ๆ ก็คงไม่งามนัก แม้แฟชั่นการแต่งตัวให้ดูเซอร์จะง่ายและสุดจับฉ่ายแค่หยิบชุดเก่า ๆ หรือเสื้อผ้าแนววินเทจมาสวมใส่ก็ดูเซอร์แล้วแต่ทว่าการจะเซอร์ให้ยังดูดีก็เป็นอะไรที่ยากพอสมควร ว่ากันตามจริงคนผิวพรรณดีหน้าตาดีเป็นทุนแม้จะอยู่ในสภาพปอน ๆ ก็ยังดูน่าสนใจ แต่กลับกันคนสีผิวเข้มหยาบกร้านอยู่ในลุคเช่นนั้นกลายเป็นว่าคาบเกี่ยวระหว่างเส้นแบ่งของความเซอร์กับความสกปรกไปเสียฉิบ และความเข้ากันได้ยากนั้นนำมาซึ่งการล่มสลายของวัฒนธรรมสุดฮิตนี้หลังยุคสองพันต้น ๆ แล้วความเซอร์ก็ไม่หวนกลับมาอยู่ในกระแสอีกเลยนับจากนั้น

หมดยุคนิยมความเซอร์ เสื้อผ้ามือสองเองก็เห็นทีจะเป็นขาลง หลายร้านปิดตัว เลิกกิจการ ล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา หักปากกาเซียนเศรษฐกิจที่คิดว่ายุคข้าวยากหมากแพงรีเทิร์นเช่นนี้จะทำให้เสื้อผ้ามือสองราคาถูกเป็นทางเลือกเพื่อประคับประคองค่าใช้จ่าย กลับกันกลายเป็นว่าทุกวันนี้ทั้ง ๆ ที่เศรษฐกิจฝืดเคืองแต่ผู้คนก็ยังเลือกที่จะใช้ของใหม่มากกว่าเพราะกระแสแฟชั่นที่ดูทันสมัย ดูร่ำรวย และสะอาดสะอ้านนั้นงามตากว่าเป็นไหน ๆ มาถึงจุดนี้วัยรุ่นยุค 90 คงใจหายไม่น้อยเพราะความเซอร์ถือว่าไม่เท่อีกต่อไป กลายเป็นแค่ความทรงจำที่กลืนหายไปกับกาลเวลาเช่นเดียวกับคำว่าจ๊าบที่สมัยนี้ไม่มีใครพูดกันอีกแล้ว

แฟชั่นจากซุป’ตาร์เพลงป็อปสู่คนดังในวงการกีฬา

แฟชั่นโอลสคูลอย่างการสวมหูฟังเหมือนเมื่อครั้งซาวน์เบาท์ฮิต ๆ กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหลังจากจัสติน บีเบอร์ป็อปสตาร์มหัศจรรย์สวมเฮดโฟนออกไปไหนมาไหนให้ชาวโลกเห็นอยู่บ่อยครั้ง ไม่นานนักแฟชั่นสวมหูฟังที่ว่านี้ก็ได้แพร่ไปสู่เซเล็ป คนดัง โดยเฉพาะบรรดานักกีฬา ซึ่งกลายเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่นิยมสวมหูฟังแบบครอบหูแทบทุกอิริยาบถเลยทีเดียว ทว่านอกจากการฟังเพลงแล้วการสวมหูฟังเมื่อออกสู่สาธารณะของคนดังทั้งหลายยังมีประโยชน์กับพวกเขามากกว่าที่เรารู้กันเสียอีก

ความเป็นส่วนตัว การสวมหูฟังเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อย่างหนึ่งเมื่อต้องการให้ผู้อื่นทราบว่าอยากมีความเป็นส่วนตัว การแสดงออกลักษณะนี้รับรู้โดยทั่วกันแบบไม่ต้องพึ่งพาการพูดหรือแสดงท่าทางปฏิเสธต่อนักข่าวและแฟน ๆ เลย แถมยังเป็นการปฏิเสธที่นุ่มนวลกว่า ไม่เสี่ยงต่อการถูกมองว่าถือเนื้อถือตัวอีกด้วย

โปรโมทสินค้า หูฟังสมัยใหม่มีสีสันและการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว ดูสปอร์ต แบรนด์หูฟังระดับโลกหลาย ๆ ยี่ห้อจึงใช้สปอร์ตแมนในวงการกีฬาช่วยประชาสัมพันธ์สินค้า เพราะเล็งเห็นว่าสินค้าของพวกเขาเข้ากันได้กับไลฟ์สไตล์ของนักกีฬาคนนั้น ๆ ที่เห็นได้ชัดก็คือนักฟุตบอลชื่อดังอย่างปอล ป็อกบา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือแม้แต่นักกีฬาบาสเกตบอล NBA อย่างโคบี้ ไบรอันต์

ฟังเพลง นักกีฬาหลายคนไม่ได้สวมหูฟังเพื่อหวังผลด้านการตลาดเท่านั้นแต่พวกเขาใช้ฟังเพลงจริง ๆ มีนักกีฬาระดับโลกไม่น้อยที่นิยมฟังเพลงเพื่อปลุกขวัญกำลังใจ สร้างความฮึกเหิมก่อนการแข่งขัน โดยเฉพาะนักกีฬาประเภทต่อสู้ที่หลายคนยอมรับว่าตัวเขาเองจมจ่อมฟังเพลงอยู่นานหลายชั่วโมงก่อนขึ้นสังเวียน

ทำสมาธิ บางครั้งเสียงรบกวนจากภายนอกอาจทำให้นักกีฬาเสียสมาธิได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงแฟนกีฬาที่คอยเชียร์หรือแฟนกีฬานิสัยไม่ดีที่คอยส่งเสียงบูลลี่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย เป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่าเสียงรบกวนเหล่านั้นบั่นทอนจิตใจ นำมาซึ่งความรู้สึกกดดัน หดหู่ และรำคาญใจ ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาดาวรุ่งหรือนักกีฬามากประสบการณ์ก็ไม่พ้นสภาวะเหล่านี้หากต้องได้ยินซ้ำ ๆ การสวมหูฟังจึงเป็นทางเลี่ยงที่ดีที่สุดต่อสถานการณ์เหล่านี้

ภาพลักษณ์ นักกีฬาที่ต้องการรักษาภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยและติดดินส่วนใหญ่จะนิยมสวมหูฟังเป็นพร็อพคู่กับสินค้าแบบสตรีท แฟชั่น การรักษาลุคเช่นนั้นก็เพื่อเอาใจแฟน ๆ ทำให้ตัวนักกีฬาดูเป็นมิตร เข้าถึงได้ง่ายกว่า ต่างจากการใช้สินค้าของแบรนด์หรูที่แฟน ๆ จะเกรงใจไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะความมีระดับนั้นห่างไกลจากวิถีชีวิตของคนปกติค่อนข้างมากนั่นเอง

นี่คือข้อดีของหูฟังที่ขยับขยายจากการเป็นเครื่องใช้คู่ใจของป็อปสตาร์เบอร์หนึ่งของวงการเพลงกลายมาเป็นเครื่องใช้ที่ขาดไม่ได้สำหรับนักกีฬาในยุคปัจจุบัน และไม่ว่านักกีฬาแต่ละคนจะสวมไว้เพื่อฟังเพลงจริง ๆ หรือจะสวมใส่ด้วยเหตุผลใดก็ตามหากเครื่องใช้นี้เข้ามาเป็นตัวช่วยให้พวกเขาทำผลงานในการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้นแฟน ๆ กีฬาก็น่าจะพลอยชื่นใจไปด้วย และคงไม่ผิดถ้าจะกล่าวว่า  แฟชั่นบางอย่างก็ให้ประโยชน์มากกว่าแค่การเป็นเครื่องประดับบนเรือนร่างเท่านั้น

หมวกคนตัดอ้อย พรมเช็ดเท้า แตะขอบฟ้า แน่ใจนะว่านี่คือแฟชั่นระดับโลก?

วงการแฟชั่นคืออีกวงการที่เข้าใจยากพอ ๆ กับศิลปะ บางครั้งสินค้าแฟชั่นสุดฮิตราคาเรือนแสนอาจเป็นแค่เสื้อยืดหนึ่งตัวที่มีชื่อยี่ห้อสกรีนอยู่ตรงกลางซึ่งไม่ต่างจากเสื้อผ้าตามตลาดนัดเลย แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วล่ะที่จะทำให้แฟชั่นนิสต้าทั้งหลายแห่กันไปจับจองจนขายเกลี้ยงทุกอีดิตชั่น นอกจากสินค้าที่ดูไม่น่ามีราคากับผลิตภัณฑ์หน้าตาแปลก ๆ ยังมีสินค้าบางชิ้นที่ชาวไทยเรารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนได้ไปเฉิดฉายอยู่บนแคทวอล์กระดับโลกอยู่บ่อย ๆ ไม่ต้องแปลกใจไปเพราะเราเองก็สงสัยว่าผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ดังเหล่านี้อาจได้แรงบันดาลใจมาจากสินค้าบ้าน ๆ ไทยเรานี่เอง

Balenciaga Bazar bag บางคนเรียกอีดิตชั่นถุงสำเพ็งหรือถุงJJ เพราะ Handbag ของยี่ห้อดังจากฝรั่งเศสเป็นลายทางสีรุ้งเหมือนกับถุงกระสอบใบเบิ้ม ๆ ที่แม้ค้านิยมใส่ของไปขายตามตลาดนัด ซึ่งแค่แวบแรกที่เห็นหลายคนอาจจะมองว่าเหมือน แต่พอได้พิจารณาดี ๆ แทบทุกคนต่างบอกว่า เหมื๊อน…เหมือน

Wide brim hat หมวกสานบ้านนาติดยี่ห้อ Gucci แล้วหรูขึ้นมาเลย ไม่ต้องแปลกใจว่าดีไซน์เนอร์ได้แรงบันดาลใจมาจากไหนเพราะเห็นได้ชัดเลยว่าการสาน เดินผ้าขลิบขอบ และติดสายรัดคางเหมือนกันเด๊ะ ๆ ไม่ได้มีการดัดแปลงอะไรเพิ่มเติมจากหมวกสานใบละสี่สิบบาทที่ขายกันในร้านอุปกรณ์การเกษตรแม้แต่นิดเดียว

Nike Solarsoft Thong II แตะขอบฟ้าติดยี่ห้อไนกี้ดี ๆ นี่แหละ ด้วยความเคารพไม่ว่าจะเป็นสีสันหน้าตาก็ไม่ต่างจากรองเท้าแตะพื้นสีขาวหูสีฟ้าตราช้างดาวที่เราพบเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แน่นอนงานนี้ชาวเน็ตในเว็บบอร์ดชื่อดังจับมาทำรูปตัดต่อล้อเลียน เปรียบเทียบความเหมือนกันเรียบร้อย แต่อย่างว่าแหละไนกี้ก็คือไนกี้ แม้จะเป็นแตะขอบฟ้าก็ยังน่าหามาสวมใส่อยู่ดี

Nomad Tribe Handbag กระเป๋าผ้าถักจากสโตร์ของ Nomad Tribe ร้านขายสินค้าแฮนด์เมดในไมอามี่ประเทศสหรัฐอเมริกาเคลมว่าเป็นงานฝีมือจากกัวเตมาลา ทว่าคนไทยกลับหรี่ตาและบอกว่านี่มันพรมเช็ดเท้าสามผืนร้อยชัด ๆ ถ้าอยากทราบว่าความรู้สึกเมื่อถือกระเป๋าใบนี้เป็นอย่างไรก็ไม่ยากแค่ไปตามตลาดนัดหาพรมเช็ดเท้าผ้าถักลายทางมาสักผืนแล้วพับครึ่งลองเดินถือดูก่อนว่าถนัดหรือเปล่าเท่านั้นเอง

หมวกของ Raf Simons ผลงานการออกแบบจากอดีตดีไซน์เนอร์ของ Dior ทำเอาคนไทยเราต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าหมวกคนตัดอ้อยได้ขึ้นไปเฉิดฉายอยู่ในงาน New York Fashion Week 2018 ไม่ว่าจะสีสัน ลวดลาย แพทเทิร์นการตัดเย็บมันคือหมวกคนตัดอ้อยเลย ไม่ได้มีความต่างแม้แต่น้อย

เอาล่ะความบังเอิญมันเกิดขึ้นได้ อาจจะมีความบังเอิญหลาย ๆ อย่างทำให้ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์หรูหราเหล่านี้พอทำไปทำมาสุดท้ายออกมามีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับของใช้ในบ้านเราก็เป็นได้ แต่ก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันนะว่ามันต้องบังเอิญกี่ชั้น กี่ขั้นตอน ถึงจะออกมาเหมือนกันเป๊ะ ๆ ราวกับถอดมาจากพิมพ์เดียวกันแบบนี้?